น้ำตาลนับเป็นสารอาหารช่วยสร้างความสุข สำหรับคนที่รู้สึกเครียด เบื่อหน่าย อ่อนเพลียจากการทำงานหรือการเรียน ที่มักจะกินของหวานทั้งขนม เครื่องดื่ม หรืออาหารว่าง เพื่อรู้สึกหายเพลีย กระปรี้กระเปร่า สดชื่น อารมณ์ดี แต่การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป นอกจากโอกาสที่จะเกิดโรคอ้วนและเบาหวานแล้ว ยังทำให้ร่ายกายแก่ก่อนวัยอีกด้วย
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะเมื่อร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูง ก็จะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า “กระบวนการไกลเคชั่น” (Glycation) และเกิดสารทำแก่ หรือเอจีอี AGEs (Advanced Glycation End-Products) ซึ่งสาร AGEs นี้เมื่อเข้าไปอยู่ในเซลล์ร่างกายบริเวณไหน ก็จะทำให้เซลล์บริเวณนั้นเกิดการเสื่อมสภาพ ทำงานแย่ลง ถ้าไปอยู่ที่ผิวก็จะทำลายคอลลาเจนและใยโปรตีน ทำให้เกิดริ้วรอย เหี่ยวย่น จุดด่างดำ ทำให้ผิวขาดน้ำ ดูแห้ง หน้าบวม เพราะน้ำตาลจะดูดน้ำออกจากเซลล์ผิว และยังทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาดำ ดูโทรมกว่าวัย
นอกจากนี้ การกินของหวานมาก ๆ ยังทำให้เป็นสิวอีกด้วย เพราะเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณที่สูง ทำให้ต้องสร้าง “อินซูลิน” เพื่อมาลดปริมาณน้ำตาลในร่างกายของเราให้เป็นปกติ แต่การสร้างอินซูลินจะส่งผลให้เกิดไขมันที่ผิวหนัง หน้าเราก็จะมีความมันเพิ่มขึ้น โอกาสเกิดสิวก็จะมีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
นอกจากเรื่องผิวพรรณ ความสวยงามแล้ว น้ำตาลยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากสาร AGEs มีผลต่อความเสื่อมของเซลล์สมอง และความหวานจะไปขัดขวางการดูดซึมโปรตีนและสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อสมองของเรา เมื่ออาหารไปบำรุงสมองน้อยลง
พัฒนาการของสมองก็มีสิทธิ์หยุดชะงักลงเช่นเดียวกัน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมยังไม่สาย!
ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัด อ่านฉลากโภชนา การดูส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ทุกครั้งก่อนซื้อสินค้า หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสังเคราะห์ความหวาน เลือกอาหารและเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาลน้อย มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ปัจจุบันในท้องตลาดผลิตภัณฑ์น้ำตาลจากธรรมชาติหลายชนิดเป็นทางเลือกใหม่ ที่ช่วยให้อร่อยโดยไม่เป็นอันตราย และยังเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วย
ใส่ใจเรื่องการกินอีกนิด จะช่วยรักษาชีวิต และความสดใสเยาว์วัย พร้อมทั้งและสุขภาพดีให้อยู่กับเราไปอีกนานๆ
ภาพประกอบ: pexels.com
1,011 total views, 2 views today