“ปัสสาวะบ่อย” เป็นอาการที่ใครหลาย ๆ คนเป็นอยู่ และอาจสงสัยว่าที่เราปัสสาวะบ่อยนั้นเป็นเพราะอะไรกันแน่ เราดื่มน้ำเยอะไปหรือเปล่า หรือว่าเรากำลังเสี่ยงเป็นโรคอันตรายหรือไม่? แต่จริง ๆ แล้ว สาเหตุของการปัสสาวะบ่อยมีหลายประการ
- ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไป ภาวะนี้จะทำให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย ๆ แม้ในกระเพาะจะมีปัสสาวะอยู่ไม่มาก ทำให้เราต้องลุกมาเข้าห้องน้ำกลางคืนบ่อย ๆ
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ จะมีลักษณะอาการคล้ายกับภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไป อาจเป็นโรคที่ตามมาหลังจากภาวะนี้ เกิดจากการปัสสาวะนาน ๆ บ่อย ๆ หรือทำความสะอาดอวัยวะเพศไม่ดีพอ
- โรคเบาหวาน การปัสสาวะบ่อยเป็นสัญญาณของโรคเบาหวาน เกิดจากการที่มีน้ำตาลในเลือดสูงมาก ไตเลยพยายามที่จะกรองสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างน้ำตาลกลับคืนสู่ร่างกายของเรา แล้วส่งออกไปพร้อมปัสสาวะนั่นเอง
- โรคเบาจืด เป็นโรคที่ทำให้เกิดความผิดปกติของฮอร์โมนที่ควบคุมสารน้ำในร่างกาย มักจะทำให้เรากระหายน้ำบ่อย ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อย และอาจเกิดจากความผิดปกติของไตจากการกระหายน้ำที่ผิดปกติ
- โรคไต เกิดจากสถานการณ์ทำงานที่ผิดปกติของไตไม่สามารถดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายได้ดีเช่นเดิม จึงทำให้น้ำถูกขับออกจากร่างกายมากกว่า ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อย
- โรคนิ่ว ก้อนเนื้อบริเวณกระเพาะปัสสาวะ อาจมีก้อนเนื้อ หรือนิ่วเกิดขึ้นบริเวณกระเพาะปัสสาวะ หรือบริเวณใกล้เคียง ขยายใหญ่จนไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะเต็มกระเพาะเร็วขึ้น ส่งผลให้ต้องปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
- ดื่มน้ำมากเกินไป เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะบ่อย แต่เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะดื่มน้ำไม่พอเสียมากกว่า แต่สาเหตุนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะคนที่กินอาหารรสจัด การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือเกิดจากภาวะกระหายน้ำผิดปกติที่เกิดมาจากระบบประสาท หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เรากระหายน้ำมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากปัสสาวะบ่อยจนรู้สึกว่ามันผิดปกติจากระบบร่างกายที่เราเคยเป็น ไม่ว่าจะเป็นปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน หรือปวดปัสสาวะมาก ๆ จนกลั้นไม่อยู่ ให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทันที
Photo: freepik.com
1,188 total views, 3 views today