“รอยสัก” หรือ “แทททู” ในภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายว่า ตีหรือเคาะ ซึ่งที่มาของชื่อก็มาจากขั้นตอนการสักนั่นเอง อาจด้วยเครื่องสักหรือเข็มที่มีด้ายร้อยเคลือบแทงผ่านบริเวณที่ต้องการสักลงไปบนผิวหนัง ปัจจุบันเครื่องมือที่ใช้ในการสักได้เปลี่ยนไปเป็นการใช้วัสดุติดกับเครื่องไฟฟ้าและสักสีลงไปใต้ผิวหนัง ในประเทศไทยการสักหรือสักเลกนั้น เป็นการทำเครื่องหมายที่ข้อมือ เพื่อแสดงการขึ้นทะเบียนเป็นไพร่หลวงที่มีสังกัดกรมกอง แต่ถูกยกเลิกไปในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 ส่วนที่หน้าผากหรือการสักท้องแขน ใช้กับผู้ต้องโทษจำคุก และถูกยกเลิกไปใน พ.ศ. 2475 แต่การสักยันต์เป็นเหมือนเครื่องรางของขลังตามความเชื่อก็ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
ในประเทศกรีก การสักเป็นการทำสัญลักษณ์เฉพาะใบหน้าของทาสและอาชญากร ต่อมาเริ่มแพร่หลาย ส่วนในทวีปยุโรป ค.ศ. 787 การสักบนใบหน้าถือเป็นการลบหลู่ต่อพระผู้เป็นเจ้า ส่วนประเทศที่เห็นกันได้ชัดว่ามีการสักมาอย่างยาวนานก็คือ ญี่ปุ่น ในตอนแรกเป็นของพวกยากูซ่า โดยที่มาของรอยสักของยากูซ่ามาจากพวกบาคุโตะ ที่สักวงแหวนสีดำรอบๆ แขน เพื่อแสดงถึงอาชญากรรมแต่ละครั้งที่ได้ทำลงไป แต่ต่อมากลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็งแทน
ภาพประกอบ www.th.aliexpress.com
3,058 total views, 1 views today