แม้ว่าฤดูฝนจะก้าวย่างเข้ามาแล้วก็ตาม “อัมพวา” ตลาดน้ำที่ยังคงมนต์เสน่ห์และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่เสื่อมคลาย วันนี้คู่หูเดินทางจะพาท่านผู้อ่านมาอัพเดท เดินเล่นชิลๆ กันที่ตลาดน้ำแห่งนี้กัน
ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดน้ำริมคลอง ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม ในอดีต “อัมพวา” ถือเป็นศนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของ จ.สมุทราสงคราม มีการค้าขายสินค้ากันอย่างคึกคัก และเมื่อเจริญเข้ามา “ถนน” จึงกลายมาเป็นเส้นทางหลักในการค้าขายและคมนาคมแทน ทำให้ตลาดน้ำอัมพวาจึงเงียบเหงาลงและค่อยปิดตัวไป แต่ด้วยความร่วมมือของเทศบาลตำบลอัมพวาและชาวบ้านในท้องถิ่น ได้ร่วมกันฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้ง เพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำบ้านไม้เรือนแถวให้ยังคงอยู่ไม่สูญหายไปเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ตลาดน้ำอัมพวา จะเปิดเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์เท่านั้น นักท่องเที่ยวจะเริ่มมาเดินเที่ยวกันตั้งแต่เวลาประมาณบ่าย 3 โมง ไปจนถึงเวลา 3 ทุ่มนิดๆ อัมพวาได้ชื่อว่าเป็นตลาดน้ำที่ไม่เคยตกเทรน์เลย มีสินค้าให้เราเลือกซื้อเลือกหามากมาย ทั้งของกิน ของใช้ รวมไปถึงสถานที่พักและร้านอาหารที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดในปัจจุบัน การมาเดินเล่นที่นี่นอกจากเราจะได้ความเพลิดเพลินและสนุกสนานในการจับจ่ายใช้สอยแล้ว เรายังได้เห็นวิถีชีวิตแบบเดิมๆ การพายเรือมาขายของของแม่ค้าที่มีทั้งน้ำทั้งอาหาร บ้านไม้เรือนแถวทรงโบราณที่ปัจจุบันก็หาชมได้ยากขึ้นทุกที เสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่คือการนั่งรับประทานอาหารบริเวณริมคลอง อยากทานอาหารแบบไหนมีให้คุณได้หมด แม่ค้าพ่อขายจะนั่งปรุงกันในเรือ ส่วนเราก็นั่งเก้าอี้ตัวเล็กๆ อยู่ด้านบนริมคลอง มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ผัดไท หอยทอด ส้มตำ ไก่ย่าง แต่ที่ไม่ควรพลาดก็คือ อาหารซีฟู้ดกับน้ำจิ้มรสเด็ด มีให้เลือกทั้ง กุ้ง ปลาหมึก ปู ปลาทู ปลาสำลีเผา หอยแครง หอยเชลล์ มีหมด ย่างกับแบบสดๆ อร่อยหวานเนื้อแน่น ชอบร้านไหนก็เลือกนั่งกันได้ตามสบาย บริการแอร์จากธรรมชาติ ได้บรรยากาศสุดๆ ที่สำคัญราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด เมื่อเสร็จจากของคาวแล้วคุณก็สามารถหาของหวานทานได้ตลอดทาง อาทิ ไอศกรีมโฮมเมดที่ทำจากดอกไม้ต่างๆ หลากหลายชนิด ทั้งดอกดาหลา ดอกเข็ม ดอกกุหลาบก็มี หรือจะเลือกทานของหวานอย่างน้ำแข็งไส กล้วยเชื่อม วุ้นมะพร้าวก็ได้ มีให้คุณเลือกชิมได้ตลอดทาง
แต่หากใครชื่นชอบเป็นแนวร้านอาหารนั่งทานแบบเป็นจริงเป็นจังก็มีหลายร้านให้คุณได้เลือกนั่ง อาทิ ร้านกาญจนพานิช ร้านกาแฟเก่าแก่ของที่นี่ อยู่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลอง ฝั่งอุทยาน ร.2 มีเมนูเครื่องดื่มมากมาย รวมถึงเมนูขนมปังปิ้งและขนมปังเย็นรสชาติต่างๆ หรือจะเป็นที่ ร้านชานชลา ก็เก๋ไปอีกแบบ ตัวร้านตกแต่งด้วยเก้าอี้ชานชลารถไฟ เรียกว่ายกสถานีรถไฟสายแม่กลองมาจำลองให้นักท่องเที่ยวรุ่นหลังได้สัมผัสกันเลย มีบริการอาหารและเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็น ในช่วงยามเย็นโพล้เพล้นักท่องเที่ยวจะนิยมมานั่งรับประทานอาหารกันที่ ร้านอัมพวาฮาเฮ และ ร้านบ้านทองโบราณ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก นอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว ทั้งสองร้านนี้ยังมีการแสดงดนตรีสดขับกล่อมนักท่องเที่ยวให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศมากยิ่งขึ้น
จุดเด่นของตลาดน้ำแห่งนี้อาจจะเป็นเพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก การเดินทางสะดวก มีที่พักให้เลือกหลากหลาย ความสะอาด การจัดวางร้านค้าอย่างเป็นระเบียบ ที่สำคัญการพัฒนาของชาวตลาดที่ไม่หยุดนิ่ง เพราะไม่ว่าคุณจะมาเที่ยวที่นี่สักกี่ครั้งก็ตาม จะไม่รู้สึกถึงความจำเจเลย พร้อมเพลิดเพลินกับ 2 กิจกรรมล่องเรือชมวิถีชีวิตริมสองของแม่น้ำแม่กลอง และการนั่งเรือชมหิ่งห้อยยามค่ำคืน มีทัวร์เปิดบริการตลอดทางเดิน การมาเที่ยวที่นี่เราขอแนะนำให้นอนค้างสักหนึ่งคืน เพื่อเป็นการสัมผัสชีวิตอย่างละเลียด เพราะเมื่อเช็คเอ้าท์ออกจากสถานที่พักแล้ว ก็ยังเวลาให้คุณได้แวะเที่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ตลอดเส้นทางอีก อาทิ วัดบางกุ้ง อุทยานฯ ร. 2 ตลาดร่มหุบ และวัดบ้านแหลม เป็นต้น
และหากใครเป็นคนที่ชอบตื่นเช้าสักหน่อย เราขอแนะนำ 2 ตลาดที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นไอของวิถีชีวิตริมแม่น้ำแม่กลองแบบดังเดิมเช่นกัน คือ ตลาด 100 ปี บางนกแขวก และ ตลาดน้ำบางน้อย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดน้ำอัมพวาเท่าไรนัก เปิดขายเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น. หากคุณเดินทางมาจากกรุงเทพฯ คุณก็จะถึงตลาดน้ำอัมพวาก่อน ต่อด้วย ตลาดน้ำบางน้อย และตลาด 100 ปี บางนกแขวก ตามลำดับ ทั้งสองตลาดนี้เป็นตลาดที่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก เหมาะแก่การพักผ่อนเดินเล่นแบบชิลๆ ชิมอาหารอร่อยพื้นบ้าน พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายได้อย่างละเมียดละไม
ตลาด 100 ปี บางนกแขวก
ตั้งอยู่ที่ปากคลองบางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เป็นตลาดน้ำดั่งเดิมที่มีอายุกว่า 100 ปี เป็นหนึ่งในตลาดไม้เรือนแถวริมแม่น้ำแม่กลอง และเชื่อมต่อไปยังคลองดำเนินสะดวก การค้าขายในสมัยก่อนของที่นี่จึงเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้ามากมาย อยู่ห่างจากตลาดน้ำอัมพวาเพียง 5 กิโลเมตร แต่ความเรียบง่ายและกลิ่นไอของความโบราณของที่นี่ยังคงหลงเหลือให้เราเห็นอยู่บ้าง แม้ไม่มากและคึกคักเช่นตลาดน้ำอัมพวา
ของอร่อยขึ้นชื่อของที่นี่ก็จะมี ร้านแป๊ะก๋วยเตี๋ยวปู ตั้งอยู่ทางเข้าด้านหน้าตลาดฝั่งถนน น้ำซุปหวานหอม ชามใหญ่ เนื้อปูเยอะอัดแน่นพูนชาม สำหรับคนที่อยากหนักท้องสักหน่อยก็มี กระเพราปูราดข้าว และข้าวผัดปู ให้เลือกชิมกันด้วย ร้านเปิดขาย เวลา 08.00 -15.30 น. ต่อด้วย ร้านเฮียเกียรติ ข้าวแห้ง เจ้าดั่งเดิม ที่มีเครื่องเคียงให้เลือกใส่ 5 อย่างด้วยกัน คือ เนื้อไก่ กระเพาะหมู กระดูกหมู หมูหวาน และเนื้อปลา รสชาติอร่อย ทำแบบสูตรโบราณแท้ๆ นั่งทานกันริมแม่น้ำได้บรรยากาศวันวานดีนักแล นอกจากนี้ก็ยังมี ร้านผัดไทกุ้งสด ที่กุ้งตัวใหญ่มาก ร้านข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายขนมหวาน เปิดขายเป็นระยะตลอดทางเดิน
ระหว่างทางไปตลาด 100 ปี บางนกแขวก จะพบกับ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสตชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2433 โดยบาทหลวงเปาโลซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ และทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2439 ซึ่งนับถึงปัจจุบันอายุของโบสถ์ก็ 117 ปีแล้ว ตัววิหารเป็นศิลปะแบบโกธิคที่สร้างด้วยอิฐเผา เป็นบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิค ภายในวิหารคุณจะได้พบกับความงดงามของภาพเขียนกระจกสีจากฝรั่งเศส และลวดลายปูนปั้นแกะสลักเป็นรูปนักบุญต่างๆ จุดเด่นอีกอย่างอยู่ที่บานประตูโบสถ์ที่มีแผ่นดีบุกแกะสลักเป็นภาพโมเสสยกไม้ และด้วยเพราะประวัติการก่อสร้างที่ยาวนานกว่าร้อยปีและการก่อสร้างยังประดับตกแต่งอย่างอลังการ ทำให้อาสนวิหารพระแม่บังเกิดที่บางนกแขวกแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น “วัดที่สวยงามและเก่าแก่ที่สุดของชาวคาธอลิกในประเทศไทย” สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์ การมาเยี่ยมชมจึงควรแต่งกายให้สุภาพ และไม่ควรส่งเสียงดัง ในทุกวันเสาร์จะมีการเปิดโบสถ์ด้านในนักท่องเที่ยวได้ชมความยิ่งใหญ่สวยงาม แต่หากมาเป็นหมู่คณะควรติดต่อขออนุญาตจากบาทหลวงผู้รับผิดชอบก่อนล่วงหน้า เพื่อติดต่อวิทยากรบรรยาย โทร.0 3476 1347
ตลาดน้ำบางน้อย
ตลาดน้ำบางน้อย เป็นตลาดน้ำน่ารักที่ยังคงกลิ่นไอของตลาดเรือนไม้ห้องแถวแบบโบราณเอาไว้อีกแห่งหนึ่ง หากใครที่เบื่อความสับสนวุ่นวาย สามารถแวะมาพักเพื่อหาไอเดียเก๋ๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วยก็ได้ ความเรียบง่ายของวิถีชีวิตแบบไม่เร่งรีบนี่เองที่ยังคงเสน่ห์ให้ผู้คนแวะเวียนมาหาอยู่เสมอ ร้านค้าเด่นของทีนี่ก็จะมี โรตีแต้จิ๋ว ที่หาทานอยาก เป็นการสืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น รสชาติอร่อย โดยใช้แป้งข้าวเหนียวมานวดเป็นก้อนให้นุ่มแล้วนำไปตีอังไฟให้แป้งสุก จากนั้นนำถั่ว งา และน้ำตาลทรายแดงมาโรยม้วนใส่ให้เป็นไส้ วางในห่อใบตองน่ารักและน่ารับประทานเป็นอย่างมาก ถัดมาจะมีร้านขายข้าวผัดปลาทูที่ขึ้นชื่อ ต่อด้วยร้านขายของจิปาถะ ร้านกาแฟและที่พักน่ารัก บางน้อยคอยรัก ชั้นล่างเปิดเป็นแกลอรี่โชว์ผลงานของเจ้าของร้าน และจัดอีกมุมไว้สำหรับจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมคเก๋ๆ บริเวณหน้าร้านจัดเป็นมุมนั่งเล่นชิลๆ ที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเล่นได้ไม่ว่ากัน โดยชั้นบนเปิดเป็นห้องพัก จำนวนจำกัดเพียง 2 ห้องต่อคืนเท่านั้น สนใจติดต่อ โทร.08 6789 7833 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน ชาร์ตแบตฯ เติมไฟให้กับชีวิต หรือหาแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ สักอย่าง เมื่อเดินตรงจากร้านบางน้อยคอยรักเข้าไปอีกสักหน่อยก็จะพบกับร้านอาหาร และร้านขายขนมสัปมณี เป็นขนมสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งหารับประทานอยาก เราได้พูดคุยกับคุณยายสงวนศรี จิตอนงค์ อดีตข้าราชการครู วัย 79 ปี เจ้าของผลงานขนมอร่อยชิ้นนี้ คุณยายเล่าให้ฟังถึงวิธีการทำว่า ใช้ใบเตยปั่นกับหางกะทิ คั้นกรองผ้าบางแล้วนำมาผสมกับแป้งถั่วเขียวและน้ำตาลทราย ห่อด้วยยอดตองตานีอย่างสวยงาม จัดวางเรียงไว้ในถาดอย่างเป็นระเบียบ น่ารับประทานมาก รสชาติหวานมันกำลังดี อร่อยมากๆ ค่ะ อย่าลืมแวะมาอุดหนุนคุณยายกันด้วยนะคะ บริเวณหัวทางเดินเข้าตลาดน้ำบางน้อยจะมีสะพานไม้เชื่อมต่อไปยังฝั่งตรงข้าม หากใครที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจ ที่นี่เค้ามีตู้ไม้เก่าที่เอามาทำสีใหม่แบบสวยเก๋ไม่ซ้ำใครมาจำหน่าย ชื่อร้าน “รักนะ…บางน้อย” ติดต่อได้ที่ คุณกบ โทร.08 1931 6505 เจ้าของร้านอัธยาศัยดี สามารถสอบถามพูดคุยได้ ราคาย่อมเยาค่ะ รับรองได้ว่าหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบตู้ไม้แล้วหล่ะก็ คงจะได้ติดไม้ติดมือกลับไปสักใบสองใบอย่างแน่นอน สามารถนำรถมาจอดได้ 2 ที่ คือ ที่วัดเกาะแก้ว และที่วัดเกาะใหญ่
Tips การเดินทาง
– รถยนต์ส่วนตัว
ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) ถึง กม.ที่ 63 เข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม ผ่านตัวเมือง จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 325 สมุทรสงคราม-บางแพ ทางเดียวกับไปอำเภอดำเนินสะดวก ถึงกม.ที่ 36-37 ให้แยกซ้ายเข้าอำเภออัมพวา ประมาณ 800 เมตร
– รถโดยสารประจำทาง
จากสถานีขนส่งสายใต้ (ถนนบรมราชชนนี) มีรถโดยสารประจำทาง กรุงเทพฯ – ราชบุรี – ดำเนินสะดวก มาลงที่ตลาดน้ำได้เลย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. Call Center 1490 เรียก บขส.หรือ www.transport.co.wh
3,658 total views, 1 views today