หน้าร้อนมาถึงทีไร สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่ทุกคนจะคิดถึงคงหนีไม่พ้น “ทะเล” ท้องทะเลไทยที่สวยงามนั้นมีมากมายหลายแห่ง ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างกันออกไป และครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่เราจะขอพาคุณผู้อ่านมาชื่นชมกับความสวยงามของท้องทะเลในฝั่งอันดามันที่ หมู่เกาะสิมิลัน ความงดงามที่ลือชื่อไปทั่วโลก
ความงามของหมู่เกาะสิมิลันนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นเหมือนสรวงสวรรค์กลางท้องทะเลอันดามัน ที่มีความงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ทั้งบนบกและใต้ท้องทะเล เป็นแหล่งดำน้ำลึกที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก หมู่เกาะแห่งนี้มีเกาะใหญ่น้อย วางตัวเป็นแนวยาวจากเหนือลงใต้ไล่เรียงกันไปทั้งหมด 9 เกาะ คือ เกาะบอน เกาะบายู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะเมี่ยง 2 เกาะติดกัน เกาะปาหยัน เกาะปายัง และเกาะหูยง อันเป็นที่มาของคำว่า “สิมิลัน” ในภาษามลายู ซึ่งแปลว่า “เก้า” มีพื้นที่โดยรวม 80,000 ไร่ ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามันห่างจากชายฝั่งออกไป 70 กิโลเมตร ในเขตรับผิดชอบของ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ ปี พ.ศ.2525 เปิดให้เข้าชมท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน – 15 พฤษภาคม ของทุกปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคมอย่างนี้ จะเป็นช่วงที่ไร้มรสุม คลื่น-ลม สงบ การเดินทางปลอดภัย น้ำใสบริสุทธิ์ เหมาะแก่การดำน้ำชมปะการังเป็นอย่างยิ่ง
โดยพื้นที่ชายฝั่งทะเลในหมู่เกาะสิมิลันนั้น เป็นส่วนภาคตะวันออกของทะเลอันดามัน ในมหาสมุทรอินเดีย ที่มีการลดตัวลงของพื้นทะเล ทำให้บริเวณเกาะทั้ง 9 เกาะ เกิดเป็นลักษณะภูมิประเทศที่แปลกตา มีรูปร่างต่างๆ อันเป็นผลจากขบวนการกัดเซาะ สำหรับหินที่พบในหมู่เกาะสิมิลัน เป็นหินอัคนีชนิดแกรนิต อายุของหินประมาณ 65 ล้านปี
สำหรับการเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลันนั้นสามารถไปได้ในหลายเส้นทางด้วยกัน สามารถเช่าเรือเหมาลำ จ้างมัคคุเทศก์ไปเองเป็นการส่วนตัว หรือซื้อทัวร์ที่มีให้บริการอยู่ทั่วไป มีทั้งแบบโปรแกรมพักค้างคืนมากกว่า 1 วัน และแบบ ไปเช้า-เย็นกลับ วันเดียวจบ ให้เลือกซื้อตามความสะดวก เช่น จากท่าเรือทับละมุ อ.ท้ายเหมือง ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.5 ชั่วโมง (โดยเรือสปีดโบ๊ท) ถือเป็นระยะทางไปเกาะสิมิลันช่วงที่ใกล้ที่สุด และยังมีสำนักงานที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่เพื่ออำนวนความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ส่วนเรื่องที่พักบนเกาะนั้นทางอุทยานฯ มีบังกะโล และเต็นท์ให้บริการ มีร้านอาหาร หากนำเต็นท์มาเองจะต้องขออนุญาตกางเต็นท์โดยเสียค่าธรรมเนียมบำรุงพื้นที่ สอบถามอัพเดทรายละเอียดกับทางอุทยานฯ ได้ที่ โทร. 0-7659-5045 หรือ 0-7642-1365
หมู่เกาะสิมิลันนั้นมีจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ และกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะไฮไลท์สำคัญที่ทุกบริษัททัวร์จะต้องพาไป โดยในการนำเสนอนี้เรามิอาจเรียงลำดับก่อน-หลังได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับสภาพลมฟ้าอากาศในวันนั้นๆ ด้วยว่าจะเข้าชมจุดใดก่อนตามความเหมาะสม ดังนี้คือ
เกาะสิมิลัน (เกาะแปด) เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะนี้ และถือว่าเป็นเกาะแลนด์มาร์คของหมู่เกาะสิมิลัน เพราะมี “หินเรือใบ” อันเป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักไปทั่วโลก ลักษณะของเกาะแปดจะเป็นโค้งอ่าวทรงเกือกม้าขนาดใหญ่ ทรายขาว และน้ำใสมาก สามารถมองเห็นฝูงปลาตัวเล็กตัวน้อยว่ายเข้ามาอยู่รอบตัวเราในยามลงเล่นน้ำ ส่วนใต้น้ำบริเวณนี้ก็อุดมไปด้วยปะการังหลากหลายมากมายชนิด เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังใบไม้ ปะการังสมอง ปะการังดอกเห็ด ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ทางด้านเหนือของเกาะเป็นที่ตั้งของภูเขาหิน ที่มีหินรูปร่างแปลกๆ ให้จินตนาการตามมากมาย เช่น หินรองเท้าบู๊ท หรือบางคนก็เรียกว่า “หินหัวโดนัลดั๊ก” และที่สำคัญอันเป็นไฮไลท์อีกจุดหนึ่ง คือ การได้เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวและถ่ายรูปคู่กับ “หินเรือใบ” กลับมาให้ได้ บรรยากาศด้านบนงดงามมาก เราจะได้เห็นภาพหาดทรายขาวจากมุมมองด้านบน และวิวของท้องทะเลที่สะอาดใสพร้อมแนวปะการังมากมาย นี่แหละจึงจะได้ชื่อว่า “มาถึงเกาะสิมิลันของจริง!”
เกาะเมี่ยง (เกาะสี่) เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของหมู่เกาะสิมิลัน เนื่องจากเป็นเกาะที่มีแหล่งน้ำจืดธรรมชาติ จึงเป็นที่ตั้งของสำนักงานอุทยานฯ ร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักแรม มีชายหาดเป็นทรายขาวเม็ดเล็กละเอียดทอดโค้งยาว น้ำใส ไม่ลึก สามารถลงเล่นน้ำและนอนอาบแดดได้ทั้งหาดเล็กและหาดใหญ่ โดยมีพื้นที่ป่าดงดิบชื้นสภาพสมบูรณ์กลั้นไว้ ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 15 นาที มีโขดหินน้อยใหญ่เป็นแบล็คกราวน์ถ่ายรูปอย่างสวยงาม มีพืชพันธุ์สัตว์ป่าให้ศึกษาดู เช่น นกชาปีไหน ค้างคาวแม่ไก่ และรวมทั้งปูไก่ที่มีเสียงเคาะก้ามดัง กุ๊กๆ คล้ายเสียงไก่ ฯลฯ
เกาะบางู (เกาะเก้า) เป็นกองหินกลางน้ำที่มีลักษณะคล้ายหัวกะโหลก สภาพใต้น้ำของเกาะนี้สวยงามแปลกตา เพราะเป็นหุบเหวใต้น้ำลึก มีระดับความลึกลดหลั่นลงไปหลายระดับชั้น มีฝูงปลาน้อยใหญ่มากมายเกินประมาณพากันเวียนว่ายอยู่ตามก้อนหิน และบางครั้งก็มีโลมาปรากฏตัวให้เห็น ถือเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่น่ามหัศจรรย์อีกแห่งหนึ่ง เกาะนี้ไม่มีหาด แต่สามารถจอดเรือลอยลำอยู่รอบๆ เกาะ แล้วลงดำน้ำสำรวจความงามใต้ท้องทะเลได้ โดยเฉพาะทางด้านตะวันออกเป็นจุดดำน้ำลึก และน้ำตื้นที่สวยงามมากที่สุดในจุดนี้ เพราะมีครบทั้งปะการังแข็ง ปะการังอ่อน กัลปังหา และฝูงปลาสวยงามนานาชนิด และยังเป็นที่หาอาหารของปลาฉลามอีกด้วย
หินปูซาหรือหินหัวกะโหลก (เกาะเจ็ด) เป็นเกาะเล็กๆ รูปร่างคล้ายหัวกะโหลกอยู่เหนือน้ำ ส่วนใต้น้ำเป็นช่องโพรงหินให้นักดำน้ำมุดผ่านชมปะการังเพื่อความตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจจุดหนึ่ง
ส่วนเกาะที่ไม่ได้กล่าวถึง ก็จะเป็นเกาะที่ทางการอุทยานฯ ยังไม่อนุญาตให้เข้าท่องเที่ยวชม เนื่องจากต้องอนุรักษ์ไว้ให้เป็นพื้นที่บริสุทธิ์จริงๆ ที่ไม่ควรมีใครเข้าไปบุกรุกทำความเสียหายต่อระบบนิเวศน์ในส่วนนั้น
นอกจากนี้แล้ว “เกาะสิมิลัน” ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวชมธรรมชาติ ดำน้ำ หรือมาสนุกเฮฮาปาร์ตี้ที่จัดหนัก หรือจะเป็นแบบเบาๆ เท่านั้น แต่สิมิลันยังเป็นห้องเรียนกลางธรรมชาติแหล่งศึกษาหาความรู้ที่สำคัญ อันเป็นมรดกที่เราทุกคนจะต้องรักษาไว้เพื่อส่งต่อความงามบริสุทธิ์นี้ไปยังลูกหลานอีกด้วย เพราะสถานที่ไม่กี่แห่งในโลกที่เป็นที่รวมของพืชพันธุ์ สัตว์ป่า ที่หลงเหลือรอดพ้นมาจากการถูกล่าจากครั้งโลกดึกดำบรรพ์ที่ผ่านมา อีกทั้งสิมิลันยังมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง โดยเราจะสามารถพบสัตว์ป่าที่หายากในโลกปัจจุบันได้ที่นี่ เช่น ปลาฉลามวาฬ สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นกชาปีไหน นกลุมพูขาว ที่ใกล้สูญพันธุ์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ มากมายหลายชนิด ที่สืบเผ่าดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ครั้งโลกล้านปีก่อน โดยไม่เคยได้พบกับมนุษย์ที่เข้ามาบุกรุกทำลายสร้างความเสียหายให้แก่ธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งนี้เลย แต่เมื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เดินทางมาถึงที่แห่งนี้แล้ว ดังนั้นการมาเยือนที่นี่ของเรา จึงควรเป็นการไปท่องเที่ยวชมอย่างนักท่องเที่ยวแนวใหม่ ที่ระลึกรู้และใส่ใจรักษ์ในธรรมชาติอย่างแท้จริง และสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องพึงระลึกเสมอว่า”เรามาเยือนเค้า มิได้มาทำลายเค้า” การนำอาหารมาให้ปลา หรือการหยิบ จับ เหยียบย่ำบนปะการังจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
“เที่ยวอย่างผู้รู้ รู้อย่างผู้เที่ยว” คือ สิ่งเดียวที่จะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ให้อยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน
TIPS การเดินทาง
• โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม ผ่านจังหวัดระนอง เข้าสู่จังหวัดพังงา ผ่านอำเภอตะกั่วป่ามาที่บ้านลำแก่นจะมีสามแยกขวามือไปท่าเรือทับละมุ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ก่อนถึงท่าเรือทับละมุประมาณ 50 เมตร จะมีที่ทำการของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันตั้งอยู่ทางซ้ายมือ
• โดยรถโดยสารประจำทาง
– มีรถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ วันละ 2 เที่ยว เวลา 19.00 น. และ 21.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 10 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center โทร.1490 เรียก บขส.หรือ www.transport.co.th
– หากมาจากอำเภอเมืองพังงา มีรถโดยสารประจำทาง สายพังงา – ท่าเรือทับละมุ ออกจากสถานีขนส่งพังงา จากอำเภอท้ายเหมืองมีรถสองแถว ท้ายเหมือง – ทับละม
3,980 total views, 1 views today