|
|
+ มีอาการแบบไหนถึงควรรีบไปตรวจ?
มะเร็งปากมดลูกมักพบในสตรีอายุ 45-55 ปี แต่ตอนนี้มักตรวจพบมะเร็งปากมดลูกก่อนวัยอันควร และปัจจุบันก็พบในอายุน้อยลง เซลล์ปากมดลูกผิดปกติมักพบในวัยเจริญพันธุ์ มะเร็งปากมดลูกมักไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจน จึงเป็นสาเหตุให้การวินิจฉัยกระทำได้ช้า และมักตรวจพบเมื่อเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว ที่สำคัญผู้หญิงส่วนมากมักปฏิเสธการตรวจภายใน เพราะอายและกลัว และมักจะไม่มีอาการ จึงละเลยการตรวจร่างกาย |
|
+ อาการเตือนอาจมีได้ดังนี้
1. ตกขาวสีเหลือง มีกลิ่น ปนเลือด
2. เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด (อาจพบหลังมีเพศสัมพันธ์)
3. ปวดท้องน้อย (พบในกรณีมะเร็งลุกลามเนื้อเยื้อในช่องเชิงกราน)
4. ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะเป็นเลือด (พบในกรณีมีการลุกลามไปกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย)
5. เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
6. ขาบวม (มะเร็งลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง) |
|
|
|
+ การรักษา
หากรู้แต่เนิ่นๆ ในขั้นที่ 1-2 สามารถใช้การจี้ด้วยไฟฟ้าหรือตัดชิ้นเนื้อนั้นออกไป
แต่ในขั้นที่ 3 นั้นก็ต้องตัดมดลูกทิ้ง เพื่อไม่ให้ลามไปอวัยวะอื่นๆ ไม่ต้องทำคีโมหรือฉายแสงใดๆ
ในขั้นที่ 4 นั้น ต้องตัดมดลูกทิ้งเช่นกัน แล้วต้องฉายแสงหรือทำคีโมเพื่อให้มะเร็งหยุดลุกลาม |
|
|
|
+ การป้องกัน
- เวลามีเพศสัมพันธ์ก็ควรใช้ถุงยางอนามัย
- ไปตรวจภายในทุกปี
- สาวที่มี sex ครั้งแรกก็ควรจะตรวจได้แล้วไม่ว่าอายุเท่าไหร่ แต่ถ้าสาวโสดควรตรวจเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปนะ
- ตอนนี้มีวัคซีนป้องกันแล้ว แต่จะให้ได้ผลดีควรฉีดก่อนที่จะมี sex ครั้งแรก ลองสอบถามตามโรงพยาบาลชั้นนำ |
|
|